ก็อาจเป็นไปได้ที่เขาเป็นชาวต่างชาติ   การที่จะหาคนร่วมหุ้นเพื่อจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทให้ครบสามคน อาจหาได้ลำบาก  เขาจึงหลอกใช้คุณให้เป็นหุ้นส่วนลม   คือเงินค่าหุ้นของคุณเขาเป็นผู้จ่ายเอง เพื่อให้ครบตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด   เมื่อคุณหมดความจำเป็น  เขาก็หาทางให้คุณออกไป    การเป็นกรรมการบริษัทหรือหุ้นส่วนบริษัท  ย่อมมีความรับผิดชอบต่อบริษัท ถ้าบริษัทไปก่อหนี้ผูกพันขึ้น   ต้องรีบไปแจ้งยกเลิกการเป็นหุ้นส่วน  ก่อนจะสายเกินแก้   ที่สำนักงานจดทะเบียนธุรกิจ ถ้าอยู่ใน กทม. หรือ สนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า สำหรับต่างจังหวัด สถานที่เหล่านี้ อาจค้นหาที่อยู่ได้ในกูเกิ้ล  แต่การแจ้งยกเลิกคงไม่ง่ายดังคิด ยิ่งถ้าบริษัทมีหนี้ผูกพันอยู่ยิ่งมีปัญหา  ต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงขั้นตอนวิธีการยกเลิก  และต้องพยายามให้ถึงที่สุด  เพื่อยกเลิกการเป็นกรรมการบริษัทให้ได้ครับ

ขอบคุณมากนะค่ะที่ช่วยแสดงความคิดเห็นแต่ตอนนี้เอกสารทั้งหมดยกเว้นตราประทับของบริษัทอยู่ที่ฉันและวันพรุ่งนี้เค้าให้ฉันนำเอกสารไปให้เค้าทั้งหมดแต่ฉันบอกว่าถ้าจะเอาตัวจริงให้ไม่ได้ต้องมีคนมาเปลี่ยนชื่อก่อนฉันถึงจะให้ แต่ทางนั้นบอกว่าต้องเอาไปทำเรื่องประกันสังคม และเรื่อง visa ให้กับลูกน้องของเค้า คุณว่าฉันสมควรให้เค้าดีไหมค่ะ แต่ในหนังสือรับรองเขียนว่า กรรมการบริษัททุกคนมีสิทธิ์ลงนามคนใดคนหนึ่งและประทับตราประทับของบริษัทแต่สำหรับทำเอกสารท่องเที่ยวต้องเป็นชาวไทยคนหนึ่งเท่านั้น ฉันควรที่จะให้ copy เค้าดีไหมค่ะ ช่วยแสดงความคิดเห็นกลับด้วยนะค่ะ

ใช้วิธีถ่ายสำเนาเอกสารไว้  ตัวจริงให้เขาไปก่อน    แล้วนำสำเนาเอกสารไปตรวจสอบค้นคว้า  ที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจ  เพื่อหาช่องทางยกเลิกการเป็นกรรมบริษัทครับ

คุณคงคาผมไม่ได้โต้แย้งคุณนะ แต่ผมเห็นว่าไม่สมควรให้ตัวจริงไปนะ ตอนนี้ยังไม่ต้องทำไร ทำอย่างเดียวคือถอนรายชื่อการการบริษัท ซึ่งตามกฏหมายต้องมีการประชุมบริษัทและนำหนังสือประชุมกรรมการไปประกาศและ นำไปถอนชื่อออกจากกรรมการ แล้วเรื่องประกันสังคม เรื่องวีซ่ามันไม่เกี่ยวกับการถอนกรรมการเลย เค้าน่าจะใช้บริษัทรับรองการเดินทางเข้าออกนอกประเทศมากกว่า  การต่อวีซ่ากรณีประกอบกิจการในประเทศ

แล้วเรื่องความรับผิดชอบกรรมการบริษัทไม่ต้องรับผิดในหนี้ของบริษัทครับ เว้นแต่กรรมการได้ทำนอกเหนืออำนาจของตนต้องรับผิดเป็นการส่วนตัว  สอบถามเพิ่มเติมได้ครับ 0894784179 ทนายความ

"ขอบคุณพวกคุณมากนะค่ะที่ช่วยแสดงความคิดเห็น"   

        แต่ตอนนี้ชาวต่างชาติที่เป็นลูกน้องได้จดทะเบียนแต่งงานกับคนไทยประมาณเกือบปีแล้วค่ะแต่ถ้าวีซ่าหมดก็จะไปแสตมป์พาสเปอร์ที่กัมพูชาค่ะแต่ตอนนี้กำลังทำเรื่องยื่นวีซ่าทำงานแต่ทางบริษัทยังไม่ได้ทำประกันสังคมเลยต้องใช้เอกสารของบริษัทและสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของฉันที่ตอนนี้ยังเป็นกรรมการบริษัทอยู่เพื่อยื่นทำประกันสังคมและขอวีซ่าทำงานถ้ายังใช้ชื่อฉันเซ็นจะมีปัญหาอะไรไหมค่ะ

        หรืออย่าเพิ่งทำอะไรทั้งนั้นทำอย่างเดียวคือหาคนเปลี่ยนชื่อบริษัทก่อนที่ดีที่สุด 

         แล้วถ้าล่าช้าบริษัทจะต้องเสียค่าปรับอะไรไหมค่ะ

          และอีกอย่างฉันได้จดทะเบียนหนังสือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยขึ้นมาด้วยจะมีปัญหาอะไรอีกไหมค่ะจะต้องไปเปลี่ยนชื่อไหมหรือเปล่า หรือว่าถ้าเปลี่ยนชื่อกรรมการบริษัทแล้วก็ถือว่าเป็นชื่อของคนใหม่เลย ช่วยตอบมาหน่อยนะค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

ความเห็นที่แตกต่างกัน   เราไม่ว่ากันอยู่แล้วครับ   เพราะผู้ได้รับประโยชน์คือผู้ถามปัญหา จะได้รับมุมมองที่แตกต่างออกไปเพื่อประกอบการตัดสินใจ   เรื่องความรับผิดต่อบริษัท  ก็เป็นความจริงดังที่ท่านว่าไว้   ถ้าทำอะไรตรงไปตรงมา แต่นี่เขากล้าจนเอาชื่อผู้อื่นไปจดทะเบียนบริษัทโดยเจ้าของไม่ทราบ    เรื่องอื่นๆถ้าเขาแต่งเติมเอกสารขึ้นมา  หรือพูดกันตรงๆ  ก็คือปลอมแปลงเอกสาร  อะไรๆก็เกิดขึ้นได้เสมอครับ    ก็ยังยืนยันอยู่เช่นเดิม  ให้ผู้ถามปัญหานี้หาทางถอนตัวออกจากบริษัทครับ

เพราะว่าการต่อวีซ่าประเภทนักธุรกิจจำเป็นต้องมีชื่อคนงานอยู่ใบแบบประกันสังคมจำนวน4-5คนขึ้นไป