[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ปรึกษาเรื่องที่ดินค่ะ | |
พ่อมีที่นา มีนส.3 ครุฑเขียวค่ะ ส่วนที่หัวหน้าเป็นที่ สปก. แต่อนุญาตให้ทำกินได้ ทำกินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 เคยไปขอเอกสารรับรองแต่ที่ดินไม่ออกให้ แต่เสียภาษาที่ดินตลอด และมีการซื้อขายกับผู้ครอบครองข้างเคียง พอมาเมื่อวานมีคนในหมู่บ้านถือใบ นส.3 ครุฑดำมา พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ดินมาทำรางวัด ปรากฎว่าที่ของเขาไม่มี แต่ภาพถ่ามาเป็นที่หัวนาเราที่เราทำกินมาตั้งแต่ปี 2557 ใบ นส. 3 เขาออกปี 2535 เขาจะเอาที่ดินดินตรงนี้ ทั้งที่เราทำกินมา 48 ปี แล้ว ควรทำอย่างไรคะ ถ้าไม่ยินยอม พอจะมีวิธีการอย่างไงบ้าง คุยไกล่เกลี่ยกับเขาแล้วที่ดินมาี 12 ไร่ หากจะแบ่งครึ่งก็ได้ แต่ เขาไม่ยอมค่ะ /ขอคำแนะนำค่ะ ขอบคุณค่ะ
| |
ผู้ตั้งกระทู้ นางปฏิญญา (oum_oon-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2021-07-13 10:11:06 IP : 27.145.11.35 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (4435310) | |
ปัญหาที่ดิน แม้เจ้าของที่ดินจะมีเอกสาร นส.3 (ครุฑดำ) แต่เขามีเพียงสิทธิครอบครอง แม้ในเอกสารจะระบุว่า เอกสารของเขาออกมาตั้งแต่ ปี 2535 แต่ตามที่เล่า คุณครอบครองที่ดินส่วนนี้ มาตั้งแต่ปี 2557 และคุณยืนยันว่า ทำกินมา 48 ปี.. ในข้อกฎหมายคุณจึงมีสิทธิครอบครองที่ดีกว่า ตาม ปพพ . ม.1367 ม.1368 ม.1369 ม.1370 ม.1371 ม.1372 สรุปง่ายๆคือ คุณผู้ครอบครองทำประโยชน์ จะมีสิทธิดีกว่า เจ้าของ นส.3....การที่คุณครอบครองที่ดิน บน นส.3 ของผู้อื่น แต่เจ้าของไม่โต้ แย้ง ภายในอายุความ 1 ปี ตาม ปพพ. ม.1375 วรรคสอง สิทธิการครอบครองของเขาย่อมหมดไป (ซึ่งเป็นเรื่องอำนาจฟ้อง..เป็นปัญหาข้อกฎหมาย) ถ้าการเจรจาไม่ได้ผล ถ้าเขามีการฟ้องร้อง คุณเพียงให้การต่อส้ว่า เขาไม่ฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่มีการแย่งการครอบครอง ศาลต้องยกฟ้อง มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาหลายคดีที่วินิจฉัยในเรื่องนี้ ในแนวทางนึ้ (จะขอยกตัวอย่างให้ดูซัก 2 คดีก็คงพอนะ ครับ)....เบื้องต้นก็ควรใช้การเจรจากันก่อน ถ้าเขาเล่นไม้แข็ง เราก็ไม่น่าจะต้องไปยินยอม เพราะในข้อกฎหมาย คุณอยู่ในฐานะได้เปรียบ เจ้าพนักงานที่ดิน ถ้าเห็นว่า เจรจากันไม่ได้ ก็คงแนะนำให้ไปฟ้องร้องกันเอาเองเท่านั้น ด้วยความปรารถนาดี ครับ
คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 6412/2550 ที่พิพาทเดิมเป็นที่ป่า แต่ต่อมาได้ถูกถอนสภาพ ที่พิพาทจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตาม ป.พ.พ. มาตรา 1304 (1) ผู้ครอบครองที่พิพาทโดยมีเจตนายึดถือเพื่อตนย่อมมีสิทธิครอบครองในที่ดินได้
การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1375 วรรคสอง ผู้ครอบครองจะต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่เวลาที่ถูกแย่งการครอบครองโดยไม่คำนึงถึงว่าผู้ครอบครองจะทราบว่าถูกแย่งการครอบครองหรือไม่และไม่คำนึงว่าผู้ครอบครองได้โต้แย้งการครอบครองหรือได้ร้องเรียนต่อพนักงานฝ่ายปกครองว่าถูกแย่งการครอบครองหรือไม่ จำเลยเริ่มเข้ามาปลูกบ้านบนที่พิพาทตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 การที่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2540 จึงเป็นการฟ้องคดีเกินกว่า 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาท โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเพื่อเอาคืนการครอบครองที่พิพาทจากจำเลย ฎีกาที่ 3422/2551 จำเลยล้อมรั้วไม้ไผ่ในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นของโจทก์ โจทก์แจ้งให้จำเลยระงับการกระทำดังกล่าวแต่จำเลยยังคงทำการล้อมรั้วจนแล้วเสร็จ เป็นการแสดงเจตนาแย่งการครอบครองที่ดินพิพาทนับตั้งแต่วันที่มีการล้อมรั้วไม้ไผ่
ป.พ.พ. มาตรา 1375 วรรคสอง เป็นบทบังคับเรื่องกำหนดเวลาสำหรับฟ้อง ไม่ใช่เรื่องอายุความ จึงไม่อาจนำเรื่องอายุความสะดุดหยุดลงมาใช้บังคับได้ โจทก์ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินพิพาทเกิน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง โจทก์ย่อมขาดสิทธิฟ้องร้องตาม ป.พ.พ. มาตรา 1375 วรรคสอง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยรื้อถอนรั้วออกไปจากที่ดินพิพาทและเรียกค่าเสียหายจากจำเลย
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2021-07-13 10:46:23 IP : 223.205.223.6 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1087795 |