คุณก็ใสซื่อจนเกินไป  ทีั่ไปถามเขาว่าขโมยมาหรือไม่  ผู้ร้ายที่ไหนจะไปยอมรับ  การซื้อของมีอสอง   ควรซื้อตามร้านค้าทั่วไป  ถ้าไปซื้อเช่นกรณีของคุณ   อาจมีความผิดฐานรับของโจรตามที่คุณเข้าใจได้....การไปแจ้งตำรวจ    ก็ควรพิจารณาให้รอบคอบ    ถ้าไปเจอตำรวจเจ้าปัญหา   คงนำหลักกฎหมายมาอ้างว่า   คุณทำความผิดสำเร็จแล้ว  ต้องรับผิดฐานรับของโจร  คุณก็คงลำบาก    แต่ถ้าโชคดีัไปเจอตำรวจที่ดี    ก็คงกันคุณไว้เป็นพยาน   เพื่อดำเนินคดีช้อหาลักทรัพย์กับคนขายคอมฯให้คุณ  ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณก็รอด   คุณคงต้องเลือกเอาเองจะดำเนินการอย่างไร  ถ้าผมแนะนำให้ไปหาตำรวจ    ถ้าเขาดำเนินคดีกับคุณ (ซึ่งเขาสามารถทำได้ ตามหลักการของกฎหมาย)  จะกลายเป็นว่าแนะนำให้คุณให้ได้รับเคราะห์กรรมครับ......การมีพยานรู้เห็นในการซื้อ   อาจพอเป็นของต่อสู้ได้ว่า   คุณรับซื้อไว้โดยสุจริต   แต่อย่างไร    ก็อยู่ที่มุมมองชองตำรวจและอัยการ   ถ้าเขาจะฟ้องคุณในช้อหารับของโจร  ก็สามารถทำได้    คงอยู่ที่ศาลท่านจะมีความเห็นเป็นอย่างไรครับ

ถ้าคุณบริสุทใจและไม่คิดติดใจเอาเงินคืนจากเพื่อน คุณก็ลองติดต่อเจ้าของเครื่องที่ลงประกาสของหายไว้ แล้วตกลงกันให้เรียบร้อยว่าจะคืนให้ แต่บอกไปก่อนว่าคุณไม่เกี่ยวข้องด้วยเพียงแต่เพื่อนเอามาจำนองไว้แล้วไม่ไถ่คืน บังเอิญคุณมาหาข้อมูลเจอเลยอยากคืนเจ้าของ ผมว่า ถ้าผมเป็นเจ้าของผมก็ดีใจมากที่ได้ของคืน และผมก็ไม่คิดจะเอาเรื่องคุณด้วย เพราะเทียบกับราคาของมันไม่คุ้มแน่ อีกอย่างคุณเองก็เป็นฝ่ายแสดงเจตนาส่งคืนเจ้าของเอง เสมือนผู้ร้ายยอมมอบตัว ย่อมได้รับการประกันตัวในภายหลัง ลองดูครับ

ตามความเห็นที่2  ก็ถือว่าเป็นทางอีกทางหนึ่ง    แต่ถ้าเจ้าของไปแจ้งความ    คุณก็ไม่พ้นความผิดฐานรับของโจรเหมือนเดิม   ผมเชื่อว่าคุณเจตนาบริสุทธิ์  แต่ถ้าความบริสุทธิ์ต้องไปพิสูจน์กันที่ศาล   มันอาจไม่คุ้ม   เคยมีกรณีตัวอย่างหลานที่เป็นญาติกันห่างๆ   ไปซื้อลำโพงเครื่องเสียงมือสอง ถามไปตามมาน่าจะเป็นการขโมยมาขายให้    ผมจึงแนะนำให้นำลำโพงนั้นไปโยนทิ้งแม่น้ำ    อีกคนหนึ่งซื้อเครื่องเสียงไว้   เกิดความเสียดายไม่เอาไปทิ้ง    ไม่นานก็มีตำรวจมาถึงบ้าน   เรียกเงิน ไปหนึ่งหมื่นเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี  สุดท้ายต่อรองเหลือ 4 พันบาท  ส่วนหลานรอดตัวไปเพราะไม่มีของกลาง   เล่าจากประสบการณ์จริง  ไม่ใช่ต้องการให้คุณทำตาม  แต่เป็นข้อคิดเท่านั้น  ในหมู่นักกฎหมายมักพูดกันว่า  การรับของโจร   กฎหมายปิดปาก  คือถ้ารับของที่เกิดจากการกระทำความผิด  มักถูกตั้งข้อหารับของโจร ทำนองถูกกฎหมายปิดปากครับ...กฎหมายที่เกี่่ยวช้อง  ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 357 ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระ ทำความผิดถ้าความผิดนั้นเข้าลักษณะลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีด เอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอกหรือ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจรต้อง ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้ง จำทั้งปรับ

.

ต้องขอขอบคุณ...คุณมโนธรรม และ คุณ555 ที่ตอบข้อสงสัยของหนูค่ะ