หลานมีความผิดฐานรับของโจร  ตาม  ป. ม.357  หลักฐานได้แก่ พยานที่ซัดทอด  และซากรถ  ก็คงสามารถพิสูจน์ได้ไม่ยากว่า  ว่าถูกขโมยมา  คดีแบบนี้บางทีตำรวจอาจเปิดทางให้เจรจาตกลงค่าเสียหายกันเอาเอง  และปิดคดีเอาง่ายๆ.....แต่คงใช้เงินมากพอสมควร.......     ถ้าปล่อยไปตามครรลองของกฎหมาย      ก็ต้องไปต่อสู้คดีในชั้นศาลครับ.....

มาตรา 357 ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระ ทำความผิดถ้าความผิดนั้นเข้าลักษณะลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีด เอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอกหรือ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจรต้อง ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้ง จำทั้งปรับ
 

คือตอนนี้ไม่เหลือซากแล้วน่ะครับ หลานบอกว่า ตอนแรก เพื่อนมันบอกว่า จะเอามาจำนำ ไม่ได้มาขายน่ะครับ

แต่พอหลานรู้ว่า เป็นรถขโมยมาก็เลยรีบ รื้อเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปทิ้ง หมดแล้วน่ะครับ

อีกอย่างเรื่องมัน 9 เดือนมาแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว แล้วคนที่ซัดทอด เป็นคนขโมยมา ก็คือ ต่อเดียว

ไม่ได้มีหลายทอด แบบนี้ พอจะปฏิเสธได้หรือเปล่าครับ

ขอขอบคุณครับ

จะซัดทอดมากี่ทอดไม่ใช่สาระสำคัญอะไร ประเด็นอยู่ตรงที่ว่าตอนรับซื้อมารู้หรือไม่ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำความผิด ถ้ารู้ก็เป็นความผิดแต่ถ้าไม่รู้ก็ไม่ผิดซึ่งอันนี้คงต้องไปพิสูจน์ให้ศาลเชื่อให้ได้(กรณีเรื่องขึ้นสู่ศาล) ส่วนการจะปฏิเสธหรือยอมรับมันก็เป็นสิทธิของหลานคุณที่สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่มีหรือที่ได้จากการสอบสวนหลานคุณ เพราะในเมื่อตัวการเขาซัดทอดมาแล้วว่าเอามาขายให้หลานคุณยังไงเสียพนักงานสอบสวนก็ต้องเรียกหลานคุณไปให้ปากคำอยู่แล้วครับ ซึ่งเขาก็จะถามอยู่ดีว่าของกลางอยู่ไหน แล้วทำไมถึงทำลายแล้วเอาไปทิ้ง นี่ต่างหากคือสิ่งที่หลานคุณควรจะคำนึงว่าจะไปตอบเขายังไง ซึ่งผมมองว่าการกระทำแบบนี้แม้จะไม่รู้มาแต่แรกแต่มันดูจากการกระทำแล้วมันมีพิรุธหรือทำให้เชื่อได้ยากอยู่ครับ เอาแค่ตรงนี้คุณเองก็ยังให้ข้อเท็จจริงที่ขัดกันเลยเพราะตอนแรกบอกว่าทันทีที่ได้รถมาก็เอามาแยกชิ้นหมด แต่ต่อมากับบอกว่าหลานมารู้ทีหลังว่าเป็นของที่ขโมยมาแล้วจึงแยกชิ้น

ครับ ถ้าจะให้ชัวร์ ไม่ให้บานปลาย คงต้องเคลียร์กับผู้เสียหายเอง

แบบนี้ถ้าตกลงกัน ซื้อรถให้กับเจ้าทุกข์ คันใหม่ น่าจะจบไหมครับ

หรือว่าต้องเคลียร์เจ้าพนักงานด้วยอ่ะครับ

ถ้าเขายอมกันทุกฝ่ายในทางปฏิบัติก็มักจบลงได้เสมอครับ ซึ่งต้องดูว่าพนักงานสอบสวนเห็นชอบด้วยหรือไม่ ส่วนตัวการที่ไปขโมยมาน่าจะต้องมีส่วนร่วมในการชดใช้บ้าง ไม่ใช่ออกฝ่ายเดียวนะครับเพราะเรื่องมันเกิดขึ้นก็เพราะเขาเป็นต้นเหตุ ส่วนจะเคลียพนักงานสอบสวนด้วยหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะเอาด้วยหรือไม่ ก็ลองดูท่าทีเขาก็ได้ครับว่ามีความประสงค์อันใด

รับทราบครับ ขอขอบพระคุณ ในการช่วยตอบครั้งนี้มากๆเลยครับ ทั้ง ท่าน คงคา และ ท่าน pup มากๆเลยครับ

ขอบคุณจากใจครับ