คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2211/2551

แจ้งแก้ไขข้อมูล

27.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2211/2551

แจ้งแก้ไขข้อมูล

27.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2211/2551

แจ้งแก้ไขข้อมูล

1-2   เป็นการผิดสัญญาทางแพ่งคงต้องฟ้อง  ตามสัญญาจ้างทำของ  ภายในอายุความ 5 ปี  ตามแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ยกมา  ไปแจ้งความตำรวจก็ช่วยไม่ได้ครับ

3-4.  เรื่องแพ้ชนะอยู่ที่พยานหลักฐาน  สัญญาจ้างทำของไม่ต้องมีสัญญา  เพียงตกลงด้วยวาจา  ก็สามารถบังคับได้   เมื่อฟ้องร้อง ก็สามารถนำพยานบุคคลเข้าสืบ ตามฎีกาที่ยกมา.. และเนื้องานที่ทำลงไป นำมาเป็นพยานหลักฐานได้ ก็ทำบันทึกรายละเอียดของงานที่ทำ  เช่น  ค่าวัสดุ  ค่าแรงงาน ใบส่งของ  ใบเสร็จรับเงิน และเก็บภาพถ่ายชิ้นงานที่เป็นจุดสำคัญเตรียมไว้ครับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2211/2551

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตกลงทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ออกแบบตกแต่งและโฆษณาโครงการโฆษะ คอมเพล็กซ์ และโอเอซิส พลาสซ่าของจำเลย จำเลยให้การรับว่าได้ว่าจ้างโจทก์จริง ดังนั้น การดำเนินการตามสัญญาว่าจ้างของโจทก์แม้จะปฏิบัติตามสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลย แต่ก็เป็นกรณีที่โจทก์ได้กระทำเพื่อกิจการของจำเลย จึงมีอายุความ 5 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/33 (5) ประกอบมาตรา 193/34 (1)

ดูฉบับย่อ   ฎีกาอื่นที่เกี่ยวข้องแยกตามกฎหมายและมาตรา ป.พ.พ. ม. 193/33 แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัทเอ็นเตอร์ไพรส์ ไอจี จำกัด จำเลย - บริษัทโฆษะ โฮลดิ้ง จำกัด ชื่อองค์คณะ ศิริชัย วัฒนโยธิน ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล กีรติ กาญจนรินทร์ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน

คำพิพากษาศาลฎีกา 6866/2552

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6866/2552

แจ้งแก้ไขข้อมูล

หนังสือสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างที่จำเลยว่าจ้างโจทก์ก่อสร้างอาคารนั้น เป็นสัญญาจ้างทำของซึ่งกฎหมายมิได้บังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ฉะนั้น โจทก์จึงสามารถนำสืบพยานบุคคลว่าจำเลยตกลงยินยอมให้โจทก์ก่อสร้างเพิ่มเติมผิดไปจากแบบแปลนที่ตกลงกันไว้เดิมได้ ไม่ต้องห้ามนำพยานบุคคลมาสืบเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารนั้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94 (ข)

27.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2211/2551

แจ้งแก้ไขข้อมูล

ขออภัยข้อความบางแห่งไม่ได้ลบออกครับ

ขอบคุณมากครับ

เพิ่มเติมครับ

เขาได้ให้ผมเข้าไปทำงานเสร็จส่วนแรกแล้ว เขาจ่ายเงินให้

เขาจะอ้างได้ไหมครับว่า ส่วนหลังนั้นเขาไม่ได้บอกให้ติดตั้ง แต่เราเข้าไปทำเอง

เราสามารถเข้าไปรื้อถอนพวกกระจกอลูมิเนียมคืนได้ไหมครับ

คุณไปตกลงทำงานกับเขาแบบไหน   จึงต้องมาสงสัยว่าเขาสั่งให้เขาในส่วนนั้นส่วนนี้หรือไม่  เมื่อไปติดตั้งแล้ว  ถ้าไปรื้อ ออกอาจเสี่ยงต่อถูกฟ้องฐานทำให้เสียทรัพย์ หรือลักทรัพย์   เพราะการไปติดตั้งแล้ว ก็เกิดปัญหาข้อกฎหมาย  ต้องมาตีความกันอีกว่า  เป็นส่วนควบกับอาคารหรือไม่    ถ้าเป็นส่วนควบถ้าไปรื้อออก  ก็คงมีปัญหาครับ....ก่อนรื้อก็ต้องเจรจากับเขาให้เข้าใจก่อนว่า เมื่อไม่จ่ายเงิน ก็จำเป้นรื้อวัสดุอุปกรณ์กลับคืน  อย่ารื้อโดยพลการ  เพราะอาจมีปัญหาฟ้องร้องให้ปวดหัวได้ครับ